Singapore สิงคโปร์..นอกจากสิงโต
Singapore สิงคโปร์..นอกจากสิงโต
สิงคโปร์ประเทศเล็กๆ แต่เต็มไปด้วยสถานที่น่าสนใจจำนวนมาก เป็นประเทศแรกๆ สำหรับคนที่อยากเดินทางไปต่างประเทศ ที่ไม่ไกลและใช้งบไม่มาก
ทริปนี้เกิดจากเพื่อนๆ ในกลุ่มอยากไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกัน เลยทำการจัดทริปพาไปสิงคโปร์เพราะสะดวกสบายทั้งการเดินทางไป และเดินทางในประเทศ
เริ่มจากการเดินทางเที่ยวบินจากกรุงเทพฯไปสิงคโปร์มีหลายสายการบินมากสามารถเลือกกันได้ตามชอบ แถมมีโปรโมชั่นบ่อยๆ ด้วย ถ้าใครแนวบินแบบประหยัดคอยดูราคาไว้พอใจราคาใด สอยมาครอบครองได้เลยค่ะ
สำหรับเราเนื่องจากการทำงานที่หลากหลายของคนในกลุ่มเลยเลือกเดินทางตอนกลางคืนกับสายการบิน Scoot ไปถึงสิงคโปร์ตั้งแต่ตีสองกว่าๆ ก็หาที่พักงีบกันตามอัธยาศัย จนตีห้าครึ่งรถ MRT เริ่มวิ่งเราก็เตรียมตัวเข้าเมือง เนื่องจากเรามีบัตร EZ-Link กันอยู่แล้ว ก็แค่ทำการเติมเงินและเดินทางเข้าเมืองกัน
สำหรับ MRT สถานี Changi จะอยู่ที่ Terminal 2 เราบินมากับ Scoot เครื่องลงที่ Terminal2 อยู่แล้ว สามารถเดินตามป้าย Train to City ลงชั้น MRT ได้เลยค่ะ
ส่วนระหว่างแต่ละ Terminal ก็มีรถ Skytrain วิ่งเชื่อมกันอยู่เดินทางได้สะดวกสบาย
สำหรับที่พัก เนื่องจากเน้นทั้งสะดวกสบายและประหยัดรอบนี้เราพักกันที่ Chinatown ค่ะ
เราพักกันที่ 5footway.inn Project Chinatown 1 อยู่ติดกับ MRT สถานี Chinatown ทางออก A
ออกมาเห็นร้านหมูแผ่น Bee Cheng Hiang ทางขวามือเดินเข้าไปเส้นนั้นเลยค่ะ ล็อบบี้ของสาขา 1 อยู่หลังร้านขายของที่ระลึก
พิกัด : https://goo.gl/maps/dw4Nee592Mk
ที่นี่เช็คอินตอนบ่าย 3 สามารถฝากกระเป๋าไว้ได้ มีค่ามัดจำกุญแจ 20 SGD
กลุ่มเรามาสี่คนเลยเลือกห้องพัก Duluxe ที่มีห้องน้ำในตัวนะคะ ซึ่งห้องนี้กับห้องอื่นๆ ของสาขา 1 บางส่วนจะอยู่อีกตึกหนึ่ง ไม่ใช่ตึกเดียวกับล็อบบี้ซึ่งเดินเยื้องไปหน่อย
ห้องที่ได้เป็นเตียงสองชั้น 2 เตียง ห้องน้ำในตัว ห้องไม่กว้างมาก ไม่มีผ้าเช็คตัวให้นะคะ สามารถเช่าได้
ส่วนน้ำดื่ม กาแฟ โอวันติน และอาหารเช้าง่ายๆ สามารถกินได้ที่ชั้น 2 ของตึกล็อบบี้ กดน้ำที่นี่ก่อนออกเดินทางได้ค่ะ
ถ้าสนใจที่พักลองดูได้ที่นี่ https://www.agoda.com/partners/partnersearch.aspx?pcs=1&cid=1811539&hl=th&hid=281543 หรือ https://www.booking.com/hotel/sg/fivefootway-inn-project-chinatown-1.th.html?aid=1615768&no_rooms=1&group_adults=1
ถ้าสนใจที่พักลองดูได้ที่นี่ https://www.agoda.com/partners/partnersearch.aspx?pcs=1&cid=1811539&hl=th&hid=281543 หรือ https://www.booking.com/hotel/sg/fivefootway-inn-project-chinatown-1.th.html?aid=1615768&no_rooms=1&group_adults=1
วันแรก
เนื่องจากเรามาถึงตั้งแต่เช้า เลยมีเวลาเหลือๆ สำหรับเดินชมเมือง แต่เมื่อคืนได้แค่งีบๆ กันเลยไปเรื่อยๆ ไม่รีบร้อน เริ่มต้นทริปเพื่อความเป็นสิริมงคล เลยเดินไปไหว้พระเขี้ยวแก้วกันก่อนเป็นที่แรก จากที่พักเดินมาตามถนน Pagoda เลี้ยวขวาเดินมาเรื่อยๆ ได้เลยค่ะ
ไหว้พระกันเรียบร้อย เราก็เดินย้อนไปนิดหน่อย แล้วเขาไปเดินเล่นที่ถนน Ann Siang ค่ะ
ซึ่งเส้นนี้จะเป็นถนนเส้นเงียบๆ ที่มีตึกสีสันสวยๆ ที่คงรูปแบบตึกแบบเก่าไว้ แต่ดัดแปลงเป็นร้านอาหารและร้านเสื้อผ้าเก๋ๆ มีความพาสเทลอยู่เบาๆ
สุดถนนเส้นสั้นๆ ก็ได้เวลาเติมอาหารลงท้องค่ะ เนื่องจากเราเจอฝนแต่เช้าเลยแว้บเข้าศูนย์อาหารใกล้ๆ ก็คือที่ Maxwell Food Centre
ที่นี่หลายคนต้องมาชิมข้าวมันไก่ Tian Tian กัน แต่เราไปร้านยังไม่เปิดดีเลยลองร้านอื่นดูบ้าง
เลยชิมข้าวมันไก่ร้าน Tong Fong Fatt ซึ่งคุณลุงเจ้าของร้านน่ารักดี เรียกลูกค้าชวนคุย เรากลับไปกินอีกรอบตอนก่อนกลับคุณลุงยังถามว่ากลับกันเมื่อไหร่ รสชาติอร่อยใช้ได้ค่ะ ข้าวหนึ่งจาน+ไก่ น้ำซุป กับน้ำจิ้มที่ตักเองราคา 2.5 SGD
ด้วยความติดใจเช้าอีกวันเลยมาจัดกันอีกรอบ พร้อมผัดหมี่ร้านคุณป้าข้างๆ
และน้ำรู้สึกนิยมเกือบที่สุดในสิงคโปร์ น้ำอ้อย น้ำอ้อย + มะนาว น้ำแข็งเยอะตามสไตล์เราคนไทย
พอหายหิว ฝนก็เริ่มซาก็เดินเล่นกันต่อค่ะ เดินไปตามถนน Maxwell ผ่านตึก Red dot design สีแดงเด่น
แล้วเรามาถึงร้านอาหารที่ควรกินของสิงคโปร์อีก 1 ที่คือ Kaya toast ถ้าร้านเก่าที่หลายๆ คนชอบแวะกันคือ Ya Kun Kaya Toast นะคะ มีสาขาในห้างด้วย แต่เราเลือกแวะร้าน Good Morning Nanyang เป็นร้าน Kaya toast แนวใหม่ มีให้เลือกหลายแบบ แต่ถามว่ากินแบบไหนก็ Original ค่ะ
ถัดจากตรงนี้เพื่อยืนยันการมาถึงสิงคโปร์ค่ะ เราต้องไป Merlion กัน มากี่ทีก็ไป ไม่รู้ทำไม เดี๋ยวมาไม่ถึง
จากร้าน Good Morning เดินต่อมาอีกหน่อยจะถึง MRT สถานี Tanjong Pagar ค่ะ นั่งไป 1 สถานีลงที่ Raffles Place เราเลือกออก Exit H
เดินชมแม่น้ำ เลาะไปเรื่อยๆ ก็ข้ามถนนไปชม Merlion กันค่ะ
พอเริ่มสายๆ ที่ฝนหยุดไป อากาศก็กลับมาร้อนตามปกติ เลยหลีกหนีไปหาที่นั่งพักตากแอร์
เดินข้ามสะพานข้ามแม่น้ำ ไปอีกนิดจะถึง National Gallery ค่ะ ถ้าเข้าชม Gallery จะเสียค่าเข้าส่วนธรรมดา 20SGD และส่วน Special จะเป็น 25SGD สามารถเช็คนิทรรศการได้ที่นี่ค่ะ https://www.nationalgallery.sg/
ส่วนเราแวะมาพักขา และถ่ายรูปเล่นกันเฉยๆ
นอกจากนิทรรศการแล้ว หอศิลป์แห่งนี้ตั้งอยู่ที่ ศาลว่าการ (City Hall) และอดีตที่ทำการศาลฎีกา จึงเป็นตึกทรงสวยที่น่าลองแวะมาชมกันดูนะคะ ถ้าใครจะมาโดย MRT สามารถมาลงได้ที่สถานี City Hall ค่ะ
พักกันจนหายเหนื่อยเราก็เดินไป MRT จากสถานี City Hall นั่งสายสีแดงไปลงสถานี Dhoby Ghaut ค่ะ
ไปเที่ยวที่เที่ยวที่คนเริ่มนิยมไปกันคือ Fort Canning Park ที่นี่เป็นอุโมงค์ที่ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะ เป็นที่ที่คนสิงคโปร์นิยมมาถ่ายพรีเวดดิ้งกันค่ะ
จากสถานีทางออก B เดินไปตามไปที่บอกไป Fort Canning Park ค่ะ จะเจอกับทางเดินใต้ดินกับบันไดวนๆ ที่คนแวะมาถ่ายรูปกัน
แล้วก็ได้เวลาเติมอาหารเข้าท้องอีกครั้งค่ะ จากสถานี Dhoby Ghaut นั่งสายสีม่วงไปลงสถานี Clarke Quay (จริงระยะทางเดินได้นะคะ แต่เราหนีแดด)
มายังร้าน บักกุ๊ดเต๋ อาหารที่นิยมอีก 1 อย่างของที่นี่ เรามาร้านยอดนิยมร้านหนึ่งของสิงคโปร์คือร้าน Song Fa Bak Kut Teh สาขา Clarke Quay
จากสถานี MRT exit E ข้ามถนนมาฝั่งตรงข้าม สำหรับสาขาแรกที่เป็น Original ของสาขาตรงหัวมุมนะคะ ซึ่งคนเยอะมากอยู่ตลอด เราเลยขยับมาสองสามห้องแถวจะเจอกับอีกสาขาหนึ่ง
คนไม่เยอะมาก รอคิวไม่นานค่ะ ระหว่างรอคิวเขาก็จะให้เราทำการสั่งอาหารไว้ก่อนเลย ได้ที่นี่ก็มาเสิร์ฟพอดี
เราชอบบักกุ๊ดเต๋ของร้านนี้ตรงน้ำซุป ซดคล่องคอมากๆ
แล้วก็สั่งผักมาแนมพร้อมหมูสามชั้นอีก 1 จาน มื้อนี้ 38.32 SGD
มาถึงย่าน Clarke Quey นอกจากวิวและร้านอาหารริมแม่น้ำยามค่ำคืน มีอีกทีที่ควรแวะไปถ่ายรูปคือตึก 7 สี อาคาร Former Hill Street Police Station (MICA Building) ที่แต่เดิมเคยเป็นอาคารกองบัญชาการตำรวจ จากร้าน Song Fa เดินข้ามแม่น้ำมาก็ถึงค่ะ
นอกจากนี้ทางใต้ดินสำหรับข้ามถนนของที่นี่ยังเป็นจุดงานวาดริมผนังสวยๆ อีกด้วยค่ะ
เที่ยวจบตรงนี้ก็ใกล้เวลาเช็คอินพอดี เรานั่ง MRT Clarke Quay สายสีม่วงไปลง Chinatown แต่ก่อนจะเข้าที่พักเราแวะไป People's Park Centre ชั้น 3 เพื่อไปร้าน Sea Wheel Travel ก่อน เพื่อซื้อบัตร Garden by the bay เพื่อไว้ใช้วันพรุ่งนี้ค่ะ ราคาล่าสุดที่ซื้อคือ 18 SGD
(People's Park Centre สถานี Chinatown Exit D)
หลังจากเช็คอินและพักผ่อนกันเรียบร้อย เราออกไปเที่ยวสวนสาธารณะที่เป็นที่นิยมของสิงคโปร์อีกที่หนึ่งค่ะ ที่นี่ตอนเย็นๆ จะเต็มไปด้วยครอบครัวที่มารวมตัว พักผ่อนทำกิจกรรมด้วยกัน ที่ MARINA BARRAGE
การเดินทางจากสถานี Chinatown สายสีน้ำเงินไปลงสถานี Downtown ทางออก A เดินไปตามตึก The Sail แล้วข้ามถนนไปรอรถเมล์ที่ป้าย The Sail ค่ะ ( https://goo.gl/maps/oYERTse5fEQ2 )
นั่งรถสาย 400 ไปลงสุดสายก็จะถึงเขื่อน Marina
กับบรรยากาศครอบครัวยามเย็น
ขากลับมานั่งรถรถเมล์สาย 400 ได้ที่ป้ายเดิมตอนลงได้เลยค่ะ เพราะเป็นรถวิ่งวนสามารถนั่งไปลงที่สถานี Downtown ได้เลย
พออยู่แถวนี้แล้ว เลยกินข้าวเย็นกันที่ศูนย์อาหาร Lau Pa Sat ค่ะ ซึ่งที่นี่เน้นกันที่ไก่สะเต๊ะค่ะ มีให้เลือกทั้งแบบไม้แบบชุด แต่เราเรียบง่าย ด้วยการจบวันแรกด้วยบะหมี่
วันที่สอง
ก่อนออกเดินทางเนื่องจากสิงคโปร์น้ำแพง เลยต้องแวะไปเติมน้ำกันก่อนออกเดินทาง และกินอาหารเช้าๆ ง่ายๆ ของที่พักรองท้องก่อน 1 รอบ
เป็นพวกขนมปัง ซีเรียล นม โอวันติน กาแฟ บริการตนเอง ตามสะดวก อิ่มแล้วล้างเก็บที่เดิมค่ะ
แล้วก็ถึงมื้อเช้าจริงๆ เลือกร้านที่เปิดแต่เช้าก็เลยลงที่ร้านติ่มซำ ร้านติมซำ Tak Po อยู่ไม่ไกลจากที่พักค่ะ เดินมานิดเดียว (พิกัด : https://goo.gl/maps/jLoKQKyRzh42)
กินกันเบาๆ เพราะเพิ่งกินกันไปแล้วรอบนึง
พออิ่มท้องก็ออกเดินทางค่ะ วันนี้เราจะไปมหาวิทยาลัย Nanyang เพื่อดูสถาปัตยกรรมตึกสวยๆ ของที่นี่กัน นั่งรถ MRT สถานี Outram Park สายสีเขียวไปลงที่สถานี Boon Lay ออกทางออกที่บอกไป Bus interchange เข้าไปในอาคารมองหาช่องขึ้นรถสาย 179
นั่งรถสาย 179 จนเห็นตึก Art Design and Media Library (ป้าย Hall2) ก็กดกริ่งลงได้
ที่นี่เป็นตึก Green Roof บนหลังคาตึกเป็นหญ้าสีเขียว ด้านล่างเป็นตัวตึกที่ดีไซต์สวยสะดุดตา
พิกัด : https://goo.gl/maps/DynntS15GM32
กับอีกตึกที่เด่นๆ ของที่นี่คือตึกติ่มซำหรือ The Hive ตึกรูปทรงแปลกแต่สะดุดตา สามารถนั่งรอรถสาย 179 ต่อได้ พอเห็นตึกรูปติ่มซำก็กดกริ่งลงได้เลย (ป้าย Innovation Ctr) ตึกเข้ากับอาหารมื้อเช้าของเรามาก
พิกัด : https://goo.gl/maps/qAMDGx9BCnS2
ขากลับนั่งรถสาย 179 ที่ฝั่งเดิมเพื่อวนออกกลับไปสถานี Boon Lay ค่ะ
ที่ต่อไปเราจะไปเที่ยวย่าน Bugis กัน จากสถานี Boon Lay นั่งไปลงสถานี Bugis ออกทางออก A หรือ B มารอบนี้จะเน้นเดินชม Street Art ค่ะ
แต่ก่อนอื่นแวะกินข้าวกันก่อน มื้อนี้ขอเป็นอาหารอินเดีย ร้าน Singapore Zam Zam ร้านที่ติด tripadvisor อีก 1 ที่
พิกัด : https://goo.gl/maps/Ypxq6kQCeZB2
เป็นอาหารอินเดียที่อร่อยทุกอย่างค่ะ ประทับใจ มื้อนี้หมดไป 32 SGD
เริ่มต้นเที่ยวย่าน Bugis ชม Street Art กันที่ Haji lane ค่ะ ที่นี่เป็นตรอกเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยร้านค้าร้านอาหารแบบฮิปๆ แต่ละร้านทั้งตกแต่งทั้งวาดรูปอาร์ตไปทั้งเส้น
และที่นี่มีสถานที่สำคัญอยู่ 1 ที่คือ Masjid Sultan สวยงามโดดเด่น
แล้วก็เดินเก็บภาพริมทางแถวๆ เส้น Sultan Gate อีกนิดหน่อย
และรูปใหญ่ๆ ที่เป็นที่นิยมอยู่เส้น Victoria
แผนที่สตรีทอาร์ตของสิงคโปร์ตามไปดูได้ที่นี่ค่ะ https://goo.gl/QkxX14
และเช่นเดิมด้วยความร้อนของอากาศสิงคโปร์เรากลับไปพักที่ที่พัก แล้วออกมาเที่ยวต่อตอนเย็นอีกรอบ
โดยเย็นวันที่ 2 นี้เราไปที่ Gardens by the Bay ค่ะ
จากสถานี Chinatown นั่งสายสีน้ำเงินลงสถานี Bayfront Exit D
แต่ก่อนไปเราแวะหาข้าวเย็นกินกันก่อน เลยเข้าไปที่ศูนย์อาหารของ Marina Bay Sand ก่อน
บักกุ๊ดเต๋ที่มีชื่ออีกร้านของสิงคโปร์นอกจาก Song Fa แล้วก็มีจะมีร้าน Ng Ah Sio อีก 1 ร้าน วันนี้เลยถือโอกาสชิมที่สาขา Marina Bay Sand สำหรับเจ้านี้จะสำหรับคนชอบรสเข้มข้มค่ะ พริกไทยจัด หอมและเข้มข้น
กินแบบบักกุ๊ดเต๋ 1 ชาม + ข้าวเปล่า ราคา 7SGD
และมาสิงคโปร์ลองลอดช่องสิงคโปร์ซักหน่อย
สำหรับการเดินทางต่อไปยัง Garden by the bay สามารถขึ้นไปเดินทางเชื่อมจากตึก Marina Bay Sand ก็ได้ หรือจะออกไปเดินชมวิวด้านนอกก็ได้
หรือใครไม่อยากเดิน สามารถนั่งรถ Shutter Bus ได้เช่นเดียวกันค่ะ ในราคา 3 SGD
สำหรับเราเลือกเดินชมวิวไปเรื่อยๆ โชคดีที่เย็นแล้วอากาศไม่ร้อน และได้ Marina Bay Sand มุมนี้มา
Garden by the bay เป็นสวนพฤษศาสตร์ขนาดใหญ่ ที่เต็มไปพรรณไม้นานาชนิด สำหรับค่าเข้าชมส่วน Cloud Forest Dome และ Flower Dome จะเสียค่าเข้าชม 28 SGD ค่ะ (เราซื้อจากตั๋ว Sea Wheel ในราคา 18 SGD)
ในโดม Cloud Forest จะมีทางเดินชมวิววนจากด้านบนชั้น 6 คนกลัวความสูงอาจต้องทำใจเล็กน้อยค่ะ แต่สวยจริงๆ
ออกจากส่วนที่เสียค่าเข้าชมแล้ว เราสามารถไปชมต้นไม้ขนาดยักษ์ประดับไฟ Supertree Grove
ที่นี่จะมีการจัดแสดงแสงสีทุกวันเวลา 19.45 น. และ 20.45 น. ค่ะ
ไหนๆ ก็ค่ำคืนแล้ว เดินชมความงามของอ่าวมารีนากันต่อค่ะ
ตอนกลางคืนที่ Marina Bay Sand จะมีการจัดแสดง SPECTRA A Light and Water Show ด้วยนะคะ ทุกวันเวลา 2 ทุ่มและ 3 ทุ่มสามารถไปจับจองที่นั่งดูการแสดงกันได้ รายละเอียด http://www.marinabaysands.com/entertainment/spectra.html
พอดีช่วงที่เราไปวันแรกตรงกับที่เขาหยุด เพื่อซ้อมงานวันชาติ เลยได้ดูพลุแทน ส่วนวันนี้อยากเดินฝั่งตรงข้ามเลยไม่ได้ดูแสดงสีใกล้ๆ มาดูอีกฝั่งหนึ่งแทน
เดินวนจนเจอ Merlion อีก 1 รอบ
หมดคืนที่สองนั่งรถ MRT กลับที่พักรอลุยวันสุดท้ายค่ะ
วันที่สาม
เช้าวันที่ 3 วันนี้จะเดินทางกลับแล้ว ทำการเช็คเอ้าท์และฝากของไว้ที่ที่พัก อาหารเช้าที่เดิมของเราคือศูนย์อาหาร Maxwell จากนั้นมานั่งรอรถเมล์ที่ป้าย Maxwell Rd FC เพื่อรอรถสาย 145 ไปชมสะพานรุปคลื่น Henderson Wave Bridge
ป้ายรถเมล์ที่เรารอ https://goo.gl/maps/yzaEsEoPWXF2
ไปลงป้าย Aft Telok Blangah Hts https://goo.gl/maps/rhtioDVHLZ52
หรือถ้าจะนั่ง MRT สามารถนั่งไปลงที่สถานี HarbourFront แล้วต่อรถสาย 145 ไปลงป้ายเดียวกันได้ค่ะ
ลงรถเมล์แล้วข้ามถนนจะเจอกับทางขึ้นแบบนี้
ที่นี่เป็นทั้งที่พักผ่อนและเส้นทางเดินเขาชมธรรมชาติ สามารถเดินได้ยาวไปเรื่อยๆ ประมาณ 2 กม. แต่อากาศเริ่มร้อนแล้ว เราของนอนเล่นอยู่ที่สะพานแทนแล้วกัน
สถาปัตยกรรมของสิงคโปร์ต้องยอมรับจริงๆว่าสวยและสร้างสรรค์มากๆ
นั่งเล่นอยู่ที่นี่ซักพัก เราก็จะข้ามไปเที่ยวเซนโตซากันต่อค่ะ นั่งรถสาย 145 จากฝั่งตรงข้ามกับที่ลงรถขามา นั่งย้อนกลับไปลงที่ป้ายสถานี Harbour front เดินลอดทางเชื่อม MRT เพื่อข้ามไป Vivocity ค่ะ
การข้ามไปยังเกาะเซนโตซา สามารถไปได้ทั้ง Cabel Car-29SGD / Sentosa Express - 4SGD / เดินข้ามไป – ฟรี
เราเลือกข้ามไปด้วย Sentosa Express ค่ะ ไปลงสถานีแรกเลย Waterfront Station
ส่วนใหญ่คนมาที่นี่ก็จะมา USS กัน แต่เวลาเรามีไม่มาเลยมาเดินเที่ยวกันเฉยๆ
ถ่ายรูปหน้า USS กันอีกนิดหน่อย แล้วก็พักกินกาแฟกันที่สตาร์บัคส์
แล้วที่ขาดไม่ได้เวลามาสิงคโปร์ต้องมาเจอ Melion ตัวยักษ์บนเกาะนี้ค่ะ
พอขี้เกียจเดินก็ขึ้น sentosa express จากสถานี imbiah ไปลงสถานี beach ต่อ ในเกาะนี้ขึ้น sentosa express ได้ฟรีตลอด สบายเรา
เรามาที่ Beach Station เพราะอยากเปลี่ยนบรรยากาศการมาเซนโตซาด้วยการไปชมเรือยอร์ชกันค่ะ
ที่ Beach Station เดินไปตามป้าย Bus terminal เพื่อรอรถบัสหมายเลข 3 นั่งไปลงที่ป้าย W Hotel เพื่อชมที่จอดเรือ ณ Sentosa Cove ค่ะ รถบัสก็นั่งฟรีเช่นกันนะคะ
ก็มารับบรรยากาศแบบยุโรปหน่อยๆ
ขากลับก็รอรถหมายเลข 3 ที่หน้าโรงแรมเพื่อนั่งกลับ Beach Station ค่ะ แล้วก็นั่ง Sentosa Express ฟรีกลับ Vivocity
กินข้าวกลางวันที่ Vivocity เสร็จ ก็เป็นการช้อปปิ้งค่ะ ทั้งของตัวเองและของฝากจนเย็นๆ ก็กลับไปแพ็คของลงกระเป๋า และเดินทางกลับ จบทริปง่ายๆ ณ ประเทศสิงคโปร์ ประเทศที่เที่ยวง่ายมากเพราะการคมนาคมที่ง่ายและหลากหลาย ตั๋วโปรโมชั่นเองก็มีบ่อยๆ อยากไปต่างประเทศนึกที่ไหนมาออก นึกถึงที่นี่ได้ค่ะ
#whenigo
0 ความคิดเห็น