Hongkong 2 วัน 2 คืน เน้นถ่ายรูป ไม่เน้นช้อป
Hongkong 2 วัน 2 คืน เน้นถ่ายรูป ไม่เน้นช้อป
ฮ่องกงแหล่งขึ้นชื่อเรื่องของกิน มากมายที่ช้อปปิ้ง เดินทางก็สะดวก เราใช้เวลากับฮ่องกงทริปนี้เป็นเวลา 2 วัน 2 คืน
แบบตั้งใจมาเพื่อหาจุดถ่ายรูป จึงไม่เน้นช้อปปิ้ง แต่ของกินก็ไม่ขาด มาดูกันว่าทริปฮ่องกงสั้นๆ ของเรามีอะไรกันบ้างค่ะ
เริ่มจากการเดินทาง เราเดินทางด้วยสายการบินแอร์เอเชียเที่ยวเย็น ไปถึงฮ่องกงตอนหัวค่ำ กะเพื่อนอนให้เต็มอิ่มซัก 1 คืนก่อนออกเดินเที่ยว โดยถึงฮ่องกงประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง ผ่านตม. เรียบร้อยประมาณ 3 ทุ่ม พอเดินออกประตูทางออกปุ๊ปจะเจอ Hong Kong Airport Express Service Counter ทันที
จากการคำนวณการเดินทางมาก่อนแล้ว เราใช้รถ MTR เยอะและกะจะตะลุยแบบไม่มีแผนตายตัว เลยเลือกซื้อบัตร Airport Express Travel Pass ซึ่งเป็นบัตรนั่ง Airport Express (สามารถเลือกได้ว่าจะใช้บัตรแบบ Airport Express เที่ยวเดียวหรือไปกลับ) พร้อมนั่งรถ MTR ไม่จำกัดเที่ยวได้ในเวลา 3 วัน
ราคา AE เที่ยวเดียว 250HKD ราคา AE 2 เที่ยว 350HKD
เมื่อนำบัตรมาคืนจะได้เงินคืน 50HKD พร้อมเงินที่ใช้เหลือ
ถ้าจะนั่งรถเมล์ หรือซื้อของ หรือจะนั่ง Airport Express อีก 1 เที่ยว (เนื่องจากเราซื้อบัตรแบบเที่ยวเดียว) ก็ใช้เติมเงินได้แบบเดียวกับ Octopus เลยค่ะ
แล้วเราก็เข้าเมืองสบายๆ ด้วย Airport Express ถ้าใครมาตอนกลางวันไม่ได้รีบสามารถนั่งรถ Bus ได้นะคะ
สำหรับพักเราพักที่ Homy Hotel Central ตั้งอยู่ในเขต Sheung Wan เดินทางสะดวกเพราะอยู่ห่างจาก MTR สถานี Sheung Wan Exit A2 ไม่ถึง 100 เมตร กลับดึกๆ ออกจาก MTR เดินไม่ไกลก็ถึงที่พัก และสามารถเดินไปเที่ยว ที่ฮิตๆ อย่าง Hollywood Road ได้สบายๆ
การเดินทางจากสนามบิน นั่งรถ Airport Express มาลงสถานี Hong Kong และเปลี่ยนเป็นนั่งรถ MTR จากสถานี Central มายัง Sheung Wan ออกทางออก A2 แล้วเดินตามนี้เลยค่ะ
ที่นี่เช็คอินโดยใช้พาสปอร์ตได้เลยนะคะ ไม่มีค่ามัดจำกุญแจ และได้จะได้คีย์การ์ดคนละใบ บรรยากาศภายในห้องพัก Deluxe Twin Room
ลองเข้าไปดูที่พักได้ที่ https://www.agoda.com/partners/partnersearch.aspx?pcs=1&cid=1811539&hl=th&hid=281543 หรือ https://www.booking.com/hotel/hk/homy-central.th.html?aid=1615768&no_rooms=1&group_adults=1
พอเก็บของเสร็จ จะนอนเลยก็ยังไม่ได้ออกไปหาอะไรกินกันหน่อยค่ะ
นั่ง MTR ไปลงสถานี Wan Chai Exit A2 ไปกินบะหมี่ร้าน Wing Wah Noodle Shop
ที่นี่เป็นร้านเก่าแก่ สังเกตได้จากภาพแปะฝาผนังมีประวัติความเป็นมา และวิธีผลิตเส้นบะหมี่ของร้าน
บะหมี่เกี๊ยวกุ้ง (44HKD )
เช้าวันเที่ยววันที่หนึ่ง
เราออกจากที่พักแต่เช้า เพื่อไปหาแสงสวยๆ ถ่ายรูปค่ะ ไปยังสถานี Choi Hung
ที่แรกของเราคือ Choi Hung Estate แฟลตสีรุ้ง ที่คนนิยมมาถ่ายรูป เช็คอินกัน ที่นี่เป็นสนามบาสที่ตั้งอยู่บนลานจอดรถ สามารถเดินทางมาได้โดย MTR สถานี Choi Hung Exit C4
เมื่อออกมาทาง Exit C4 จะตรงกับทางเข้าโรงเรียนพอดี เลี้ยวเข้าไป ทางซ้ายมือจะเห็นอาคารจอดรถ ขึ้นไปชั้นบนสุดได้เลยค่ะ
เนื่องจากความแออัดของฮ่องกง ชุมชนจึงอาศัยกันอยู่ตามแฟลต และกลายเป็นสถานที่ถ่ายรูปสวยๆ หลายที่ ที่ต่อไปเป็นแฟลตที่คนฮ่องกงกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ชอบแวะไปถ่ายรูปกันค่ะ Nam Shan Estate สามารถเดินทางมาได้โดย MTR สถานี Shek Kip Mei Exit B2 แล้วเดินตามเส้นนี้
เมื่อเจอตึก Nam On House เลี้ยวเข้าไปจะเห็นบันไดทางขึ้นอยู่ทางซ้ายมือ เดินขึ้นบันไดเลี้ยวซ้าย จะเจอกับลานร้านค้า เลี้ยวซ้ายผ่านซอยร้านอาหารเข้าไปจะเจอทางขึ้นค่ะ
ที่นี่จะเป็นลานกว้างๆ ล้อมด้วยแฟลตสีเขียวขาวทั้งสามด้าน และมีเหล็กสะพานโค้งสามระดับตั้งอยู่ปลายสุดทั้งสองข้าง เป็นพร๊อบที่คนนิยมมาถ่ายรูปพร้อมอัพอินสตาแกรม ครีเอทท่ากันได้เต็มที่
นอกจากนี้ถ้าเดินเข้ามาทาง Nam On House แล้วเลี้ยวไปทางขวาจะเจอสนามเด็กเล่น ปูพื้นสวยๆ อีกหนึ่งจุดสำหรับถ่ายรูปไว้อัพเดทอินสตาแกรมเก๋ๆค่ะ
ถัดมาเป็นย่านใกล้ๆ กันค่ะ Sham Shui Po ย่านตลาดผ้า และอุปกรณ์งานประดิษฐ์ เรามาที่นี่เพื่อร้าน Tim Ho Wan ที่ติดดาวมิชชันลิน และมาตามหา Street Art
สถานี Sham Shui Po เริ่มจากทาง Exit B1 ค่ะ ไปหาของอร่อยๆ กันก่อน
จุดสำคัญๆ ตามนี้
เริ่มที่ร้านอาหารคร้าน Tim Ho Wan เนื่องจากเป็นร้านที่ได้ดาวมิชชันลิน คนจะเยอะอยู่ตลอดเลยค่ะ
ถ้าอยากกินต้องพร้อมรอกันหน่อย เข้าไปจองคิวกับเจ้าหน้าที่หน้าร้าน แล้วต้องใช้ฟังเขาเรียกนะคะ จะเรียกเป็นจีนกว้างตุ้งก่อน ตามด้านจีนกลาง และก็อังกฤษเป็นบางที ต้องตั้งใจฟัง เข้าไปร้านติ๊กเลือกเมนูที่อยากชิม เราได้เป็นเมนูจีน ไม่แน่ใจว่าขอเมนูอังกฤษได้มั้ย เราเห็นคนเยอะเลยไม่ได้ถาม
สองคนสั่งไปสามอย่าง บวกค่าน้ำชา รวมเป็น 83HKD ค่ะ วิธีสั่งติ่มซำไม่ว่าร้านไหนๆ ที่นี่คือ พอเลือกอาหารเรียบร้อย ให้ยกใบสั่งอาหารโบกไปโบกมาค่ะ เดี๋ยวเขาจะมารับไป
ต่อมาก็ถึงจุดประสงค์หลักที่มาที่นี่ค่ะ มาตามหางาน HKWalls ประจำปี 2016 เป็นงานของกลุ่มองค์กร HKwalls ที่จะหาย่านที่เหมาะๆ และสร้างศิลปะบนฝากผนัง
OKUDA
รวมภาพสตรีทอาร์ตคร่าวๆ
ภาพทั้งหมดสามารถดูได้จากเว็บไซต์ของ HKWalls http://hkwalls.org/festivals/2016-sham-shui-po/
ย่านนี้่จะคล้ายๆ สำเพ็งบ้านเรา
เดินทางสู่จุดต่อไปที่ใครๆ ก็ไม่ควรพลาด The Peak ค่ะ
เนื่องจากอย่างที่รู้กันว่าตอนเย็นๆ รถรางขึ้น The Peak จะมีคนเยอะมาก เราเลยเลือกไปโดยวิธีง่ายๆ คือรถเมล์ วิธีเดินทางด้วยรถเมล์สาย 15 สามารถขึ้นได้จากท่ารถบัสใต้ตึก Exchange Square
โดยนั่งรถ MRT มายังสถานี Central
ออกทาง Exit A ข้ามสะพานลอยก็จะถึง Exchange Square แล้วค่ะ
รอต่อคิวขึ้นรถบัสสาย 15 The Peak ใครชอบชมวิวแนะนำชั้น 2 นะคะ ส่วนคนกลัวความสูงแนะนำชั้นล่างค่ะ
วิวจากการนั่งรถบัสชั้นสอง มันก็จะสวยๆ เสียวๆ กันหน่อย
เมื่อมาถึงท่ารถบัสบน The Peak ซึ่งจะอยู่ข้างๆ ห้าง The Peak Galleria นะคะ ถ้าใครอยากชมวิวแบบสวยๆ สามารถซื้อตั๋วขึ้นไปชมบน The Peak Tower ได้นะคะ ส่วนเราลองเดินไปจุดที่ชมฟรีกันดู เดินไปตามถนน Lugard ซึ่งเป็นทางสำหรับนักเดินสำรวจชมธรรมชาติ ตามเส้นทางนี้
จนถึงจุดที่มาร์คไว้ จะได้มุมประมาณนี้
ก่อนกลับลงไปจัดของหวานไปหนึ่งอย่างไอติมคู่กับวาฟเฟิลฮ่องกง
ขากลับลงมาจาก The Peak ตอนแรกเราก็ตั้งใจจะนั่งรถราง แต่จากจำนวนคนและความขี้เกียจเดินไป MTR ต่อ เลยเลือกกลับด้วยรถบัสเหมือนเดิม โดยขึ้นรถที่ท่ารถตอนที่เราลง ต่อแถวขึ้นรถสาย 15 รถจะไปสุดสายที่ Exchange Square เดินข้ามสะพานลอยก็กลับเข้า MTR ไปเที่ยวกันต่อได้ค่ะ
สองทุ่มคืนนี้เรามีนัดกันที่ A Symphony of Lights ที่อ่าว Victoria นั่ง MTR ไปลงที่สถานี Tsim Sha Tsui
ออกทาง Exit L6 แล้วเดินผ่านอาคาร Hong Kong Cultural Centre
2 ทุ่มปุ๊ปก็เริ่มการแสดง ใช้เวลาแสดง 10 นาที
การแสดงจบขนมบน The Peak ก็ย่อยพอดี เราไปต่อกันที่ย่าน Mongkok ยามค่ำคืนค่ะ
มื้อนี้มาชิมติ่มซำร้าน Yum Cha ที่ห้าง Langham Place จากสถานี Mongkok ออกทางออก C3 จะเป็นทางเข้าห้าง มาถึงร้านจะมีชาให้เลือก 3 แบบนะคะ ติ๊กเลือกชา 1 อย่าง และก็เลือกอาหาร เลือกเสร็จโบกใบสั่งอาหารให้พนักงานเช่นเคย อาหารของเรามีดังนี้
ซาลาเปาคัสตาร์ดไส้ไหลทั้งน่ารักทั้งอร่อย
truffle e-fu noodle รสชาติคล้ายๆ มาม่าผัดแต่อร่อยใช้ได้เลย
อันสุดท้ายปีกไก่น้ำผึ้ง ทานคู่กับสับปะรด อร่อยไม่แพ้กัน ค่าเสียหาย 287.10HKD ราคาสูงหน่อยแต่อร่อยถือว่าคุ้ม
ปิดท้ายคืนวันนี้ด้วยมงก๊กยามค่ำคืน
เช้าวันที่สอง รองท้องด้วยโจ๊ก Sang Kee Congee Shop ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พัก (Shueng Wan Exit A2)
โจ๊กปลาถ้วยเล็กราคา 24HKD
วันนี้เราเดินเที่ยวย่าน Shueng Wan และ Central โดยเราเลือกเดินเส้น Hollywood เป็นหลักเดินเลาะยาวตามนี้เลยค่ะ แวะซอยซ้ายขวาไปตามทาง
ถนนเส้นนี้เป็นถนนเส้นเก่าแก่ของฮ่องกง มีอาคารเก่าๆ สถานที่สำคัญ รวมถึงเป็นย่านฮิปๆ ที่มีงานศิลปะของ Hkwalls ประจำปี 2015 รวมถึงยังเป็นย่านที่มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่มาก
และเนื่องจากเป็นถนนเส้นเก่าแก่ของฮ่องกงก็จะมีอาคารเก่าๆ แทรกตัวอยู่
มีวัดหม่านโหมว วัดเก่าแก่ของฮ่องกง เป็นแหล่งที่นักเรียนนักศึกษานิยมมาสักการะ
สิ่งที่โดดเด่นของถนนเส้นนี้ก็ไม่พ้นงานสตรีทอาร์ต
เดินไปจนถึงอีกมุมที่นักถ่ายภาพนิยมมาถ่ายภาพ Duddell Street Steps and Gas Lamps
ที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของ Starbucks สาขาที่ตกแต่งคอนเซปต์สไตล์วินเทจ เหมือนมานั่งร้านกาแฟโบราณ
Causeway Bay ย่านช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยห้างจำนวนมาก ผู้คนก็มากมาย แต่ของให้เลือกช้อปครบครัน สายช้อปมาที่นี่ได้ แต่เราเน้นมาเดินเล่น
จาก Causeway Bay ไปต่อกันที่ Wan Chai ด้วยความตั้งใจจะไปไปรณีย์เก่า Wan Chai ( สถานี Wan Chai Exit A3 หรือจะนั่งรถรางมาก็ได้ค่ะ )
Wan Chai Environmental Resource Centre หรือตึกไปรษณีย์เก่าที่ตอนนี้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ชมฟรี เปิด 10:00-17:00 น. ปิดวันอังคาร
แสตมป์ที่ระลึกสำหรับผู้มาเยือน
เดินทางกลับมายังสถานี Shueng Wan เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับ ก่อนกลับแวะหาอะไรกินกันก่อน DIm Sum Square ติ่มซำร้านดัง
ทั้งหมดเบ็ดเสร็จ 119 HKD
เรียบร้อยแล้วกลับไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ตั้งแต่เช้า แล้วเดินทางไปยังสนามบินค่ะ เราใช้วิธีกลับด้วย Airport Express เหมือนเดิม โดยเติมตังค์เข้าบัตร การเติมเงินจะเติมได้ทีละ 50 หรือ 100 HKD
สรุปแล้วคือเราซื้อบัตร 250 เติมเงินไปอีก 150 สำหรับนั่งรถเมล์ รถราง แล้วก็ Airport Express ขากลับ เราว่าพอกับซื้อ Travel Pass แบบ 2 ขา 350 แล้วต้องเติมเงิน 50 เพื่อขึ้นรถเมล์หรืออื่นๆ ดังนั้นเลยจะซื้อแบบไหนก็ได้ตามสะดวก ยกเว้นว่าเดินทางด้วย MTR ล้วนซื้อแบบไป-กลับคุ้มกว่า
การ Refund ต้องลงไปที่ชั้นขาเข้า ที่เคาท์เตอร์ Airport Express นะคะ จะได้เงินคืน 50+ที่เหลือเศษใช้ไม่หมดอีกนิดหน่อย และก็จบทริปฮ่องกง 2 วัน 2 คืนแบบง่ายๆ ใกล้ๆ ไปได้เรื่อยๆ ค่ะ
0 ความคิดเห็น